ดัชนีความเคลื่อนไหวของ กฎหมายที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจ
Topix
ร่างกฎหมายใหม่กรม สรรพากรที่จะช่วยวิเคราะห์ตรวจสอบการหลบเลี่ยง ภาษี
(National e-Payment Master Plan)
กรมสรรพากรกำลังดำเนินการตรา “ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร (ฉบับที่…)
พ.ศ……. เพื่อรองรับระบบภาษีและเอกสารธุรกรรมอิเล็กทรอนิกส์ตามแผนยุทธศาสตร์การพัฒนาโครงการ พื้นฐานระบบการชำระเงินแบบอิเล็กทรอนิกส์แห่งชาติ (National e-Payment Master Plan) เพื่อปรับปรุงบทบัญญัติแห่งประมวลรัษฎากรให้รองรับจัดทำเอกสารอิเล็กทรอนิกส์ที่ เกี่ยวข้องกับระบบภาษีอากร
และเพิ่มระบบทางเลือกในการหักนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย ตลอดจนเพิ่มช่องทางการชำระภาษีทางอิเล็กทรอนิกส์ โดยร่างพระราชบัญญัติมีสาระสำคัญดังนี้
- กำหนดหลักเกณฑ์ วิธีการ และเงื่อนไข ให้การยื่นรายการสามารถกระทำได้โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรม ทางอิเล็กทรอนิกส์
- กำหนดผู้มีหน้าที่หักและนำส่งภาษีหัก ณ ที่จ่าย ซึ่งจ่ายเงินได้พึงประเมินไปยังธนาคารตามกฎหมายว่าด้วยธุรกิจสถาบันการเงินหรือบุคคล ที่กฎกระทรวงกำหนดโดยวิธีการโอนเงินหรือวิธี อื่นใดในทำนองเดียวกัน สามารถหักภาษีและนำส่งผ่านธนาคารหรือบุคคลอื่นที่กำหนดโดยกฎกระทรวงพร้อมการจ่ายเงิน ได้พึงประเมินนั้นได้และกำหนดให้อธิบดีมีอำนาจ ยกเว้นการยื่นรายการภาษีเงินได้บุคคธรรมดาหัก ณ ที่จ่ายแก่บุคคลห้างหุ้นส่วน หรือบริษัท ที่หักและนำส่งภาษีนั้น ผ่านธนาคารหรือบุคคลอื่นข้างต้น
- กำหนดให้ธนาคารหรือบุคคลอื่นข้างต้น มีหน้าที่รับเงินมาส่งให้กรมสรรพากร และกำหนดให้ธนาคารหรือบุคคลอื่นนั้นรับผิดเท่าจำนวนเงินภาษีที่ได้รับไว้หรือส่งไม่ ครบถ้วนให้แก่กรมสรรพากร และเสียเงินเพิ่มร้อยละ 1.5 ต่อเดือนหรือเศษของเดือนของเงินภาษีที่ได้รับไว้หรือส่งไม่ครบถ้วน
- กำหนดให้การจัดทำใบกำกับภาษี ใบเพิ่มหนี้ ใบลดหนี้ หรือใบรับสามารถจัดทำขึ้นเป็นข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ตามกฎหมายว่าด้วยธุรกรรมทาง อิเล็กทรอนิกส์
- กำหนดให้อธิบดีกรมสรรพากรสามารถกำหนดให้ใบ รับมีข้อความอื่นที่แตกต่างจากมาตรา 105 ทวิ เรียกให้ส่งมอบบัญชี เอกสาร หลักฐานหรือข้อมูลเกี่ยวกับการเสียภาษี ในกรณีที่ข้อมูลดังกล่าวถูกเก็บในรูปของข้อมูลอิเล็กทรอนิกส์ หรือเป็นข้อมูลจราจรทางคอมพิวเตอร์ ให้อธิบดีมีอำนาจตรวจสอบและเข้าถึงข้อมูลเหล่านั้น
การเปิดรับฟังความคิด เห็นร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวล รัษฎากร เกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลตามคำขอระหว่างประเทศและการแลกเปลี่ยนข้อมูลอัตโนมัติ ระหว่างประเทศ
ในช่วง 25 กรกฎาคม ถึง 9 สิงหาคม 2561 กรมสรรพากรได้เปิดรับฟังความคิดเห็นประชาชนในการแก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติในประมวล รัษฎากร ให้มีบทบัญญัติเกี่ยวกับการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ เพื่อสะท้อนว่าประเทศไทยในฐานะสมาชิก Global Forum on Transparency and Exchange of Information for Tax Purposes (Global Forum) พร้อมให้ความร่วมมือกับ OECD ในการป้องกันการหลบหลีกหรือหลีกเลี่ยงภาษี และประเทศไทยมีการแลกเปลี่ยนข้อมูลทางภาษีตามมาตรฐานสากลเช่นเดียวกับประเทศอื่น ๆ จึงสามารถบริหารจัดเก็บภาษีได้อย่างมีประสิทธิภาพและมีความโปร่งใส
ร่างพระราชบัญญัติแก้ไขเพิ่มเติมประมวลรัษฎากร มีการเพิ่มบทบัญญัติใหม่ในประมวลรัษฎากร ดังต่อไปนี้
- เพิ่มเติมมาตรา 3 ปัณรส ให้อธิบดีมีอำนาจสั่งให้บุคคลทำหน้าที่รวบรวมและนำส่งข้อมูลทางภาษีและข้อมูลอื่น ๆ ตามที่ได้ร้องขอจากเจ้าหน้าที่ผู้มีอำนาจ หรือตามสัญญาที่รัฐบาลไทยทำไว้กับรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การต่างประเทศ หรือตามสัญญาที่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจทำ ไว้กับหน่วยงานของต่างประเทศ
- เพิ่มเติมมาตรา 3 โสฬส ให้อธิบดีมีอำนาจเปิดเผยและแลกเปลี่ยนข้อมูลที่ได้รับตามสัญญาที่รัฐบาลไทยทำไว้กับ รัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่างประเทศ หรือตามสัญญาที่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจทำไว้กับหน่วยงานของต่างประเทศ
- เพิ่มเติมมาตรา 3 สัตตรส ห้ามมิให้ผู้ใดที่ล่วงรู้ข้อมูลจากการแลกเปลี่ยนข้อมูลระหว่างประเทศ เปิดเผยแก่ผู้ใดหรือโดยวิธีใด เว้นแต่เป็นการเปิดเผยตามสัญญาระหว่างรัฐบาลกับรัฐบาลต่างประเทศหรือองค์การระหว่าง ประเทศ หรือตามสัญญาที่สำนักงานการค้าและเศรษฐกิจทำไว้กับหน่วยงานของต่างประเทศ หรือตามอำนาจหน้าที่ที่กฎหมายกำหนด
- เพิ่มเติมมาตรา 35 ตรี กำหนดบทลงโทษกรณีผู้มีหน้าที่รายงานผู้ใดไม่ปฏิบัติตามคำสั่งเจ้าหน้าที่ในการรวบรวม และนำส่งข้อมูล ตามมาตรา 3 ปัณรส ให้เจ้าหน้าที่มีคำสั่งลงโทษทางปกครองไม่เกิน 100,000 บาท และปรับไม่เกินวันละ 10,000 บาท ตลอดระยะเวลาที่ฝ่าฝืนหรือจนกว่าจะได้ปฏิบัติให้ถูกต้อง
- เพิ่มเติมมาตรา 35 จัตวา กำหนดบทลงโทษกรณีผู้ใดที่รู้อยู่แล้วหรือโดยจงใจแจ้งข้อความเท็จในการรวบรวมและนำส่ง ข้อมูลตามมาตรา 3 ปัณรส ต้องระวางโทษจำคุก 3 เดือน ถึง 7 ปี หรือปรับตั้งแต่ 2,000 ถึง 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
- เพิ่มเติมมาตรา 35 เบญจ กำหนดบทลงโทษกรณีผู้ที่ล่วงรู้ข้อมูลที่ต้องรายงานหรือข้อมูลที่ได้รับมาจากต่าง ประเทศ แล้วนำข้อมูลนั้นไปเปิดเผยหรือแลกเปลี่ยนแก่บุคคลอื่น ตามมาตรา 3 สัตตรส ต้องระวางโทษจำคุกไม่เกิน 1 ปี หรือปรับไม่เกิน 100,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ
การแก้ไขเพิ่มเติมพระราช บัญญัติคุ้มครองแรงงาน เรื่องการได้รับค่าชดเชย 400 วัน
มติคณะรัฐมนตรี เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม พ.ศ.2560 คณะรัฐมนตรีมีมติอนุมัติหลักการร่างพระราชบัญญัติคุ้มครองแรงงาน (ฉบับที่….) พ.ศ….. ได้ส่งให้ส่งสำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจพิจารณา และได้เข้าสู่การพิจารณาในวาระที่ 1 ของสภานิติบัญญัติแห่งชาติเมื่อวันที่ 28 สิงหาคม 2561 สาระสำคัญ
ของร่างพระราชบัญญัตินี้ได้แก่
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 9 กำหนดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ15 ของค่าจ้างแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าค่าตอบแทน และเงินกรณีนายจ้างหยุดกิจการ เพื่อให้ลูกจ้างมีสิทธิได้รับดอกเบี้ยในอัตราร้อยละ 15
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 13 กำหนดให้การเปลี่ยนตัวนายจ้างต้องได้รับความยินยอมจากลูกจ้างและให้นายจ้างใหม่รับไป ทั้งสิทธิและหน้าที่นั้น
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 17/1 กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าตอบแทนการบอกกกล่าวล่วงหน้าให้แก่ลูกจ้างเมื่อมีการเลิกจ้าง โดยไม่บอกกล่าวล่วงหน้า
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 34 กำหนดให้ลูกจ้างมีสิทธิลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นในปีหนึ่งไม่น้อยกว่าสามวันทำงาน และเพิ่มเติมมาตรา 57/1 กำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างในวันลาเพื่อกิจธุระอันจำเป็นหนึ่งไม่น้อย กว่าสามวันทำงาน
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 41 และมาตรา 59 กำหนดให้ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงมีครรภ์มีสิทธิลาเพื่อตรวจครรภ์ในระหว่างตั้งครรภ์ได้ โดยเมื่อรวมกับการลาเพื่อคลอดบุตรหนึ่งไม่เกิน เก้าสิบวัน และกำหนดให้นายจ้างจ่ายค่าจ้างให้แก่ลูกจ้างซึ่งเป็นหญิงในวันลาเพื่อตรวจครรภ์และ เพื่อคลอดบุตรเท่ากับค่าจ้างในวันทำงานตลอด ระยะเวลาที่ลา แต่ไม่เกินสี่สิบห้าวัน
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 53 ให้นายจ้างกำหนดค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุดให้แก่ลูกจ้างชายและหญิงอย่างเท่าเทียมกัน และแก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 70 เรื่องกำหนดเวลาจ่ายค่าจ้าง ค่าล่วงเวลา ค่าทำงานในวันหยุด และค่าล่วงเวลาในวันหยุด
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 75 เรื่องการจ่ายเงินกรณีนายจ้างต้องหยุดกิจการทั้งหมดหรือบางส่วนเป็นการชั่วคราว
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 118 (5) กำหนดอัตราค่าชดเชยเพิ่มเติมกรณีนายจ้างเลิกจ้างสำหรับลูกจ้างซึ่งทำงานติดต่อกันครบ 10 ปี แต่ไม่ครบ 20 ปี ได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างในอัตราที่ได้รับ 300 วันสุดท้าย และมาตรา 118 (6) กำหนดให้ลูกจ้างที่ทำงานติดต่อกันครบ 20 ปีขี้นไปให้มีสิทธิได้รับค่าชดเชยไม่น้อยกว่าค่าจ้างในอัตราที่ได้รับ 400 วันสุดท้าย
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 93 (5) และมาตรา 120 เรื่องการแจ้งย้ายสถานประกอบกิจการ การจ่ายค่าชดเชยพิเศษแทนการบอกกล่าวล่วงหน้าหรือค่าชดเชยพิเศษ
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 120/1 เกี่ยวกับการออกคำสั่งของคณะกรรมการสวัสดิการแรงงาน
- แก้ไขเพิ่มเติมมาตรา 120/2 และ มาตรา 125/1 กำหนดให้การดำเนินคดีอาญาต่อนายจ้างเป็นอัน ระงับไปในกรณีที่นายจ้างปฏิบัติตามคำสั่งของ พนักงานตรวจแรงงานภายในระยะเวลาที่กำหนด
- แก้ไขเพิ่มเติมบทบัญญัติที่เกี่ยวข้อง เช่น มาตรา 144 มาตรา 145 มาตรา 146 มาตรา 151 และ มาตรา 155/1 โดยกำหนดยกเลิกขั้นตอนในการให้พนักงานตรวจแรงงานมีหนังสือแจ้งเตือนนายจ้างกรณีไม่ ยื่นหรือไม่แจ้งแบบแสดงสภาพการจ้างและการทำงาน
กฎหมายภาษีอากรที่น่า สนใจ
คำพิพากษาศาลฎีกาที่ 5564/2559
การปรับใช้ “ประมวลระเบียบปฏิบัติศุลกากร” ของกรมสรรพากรสำหรับคดีภาษีมูลค่าเพิ่ม